ASUS ZenPad 7.0 แท็บเล็ตน่าใช้..ในราคากันเอง
เมื่อช่วงเดือนที่่ผ่านมา ทางด้านเอซุส ประเทศไทย ได้เพิ่งทำการเปิดตัวแท็บเล็ตใหม่ล่าสุดในตระกูล ZenPad ที่น่าสนใจของเจ้า ZenPad นี้ต้องบอกเลยว่า เป็นเพราะแนวคิดที่ทางทีมออกแบบได้นำ Zenfone มาผนวกกับ PadFone ซึ่งการผสมผสานนี้ทำให้ ZenPad ยิ่งน่าใช้ พร้อมกับมาในราคากันเอ๊ง กันเอง ที่ใครๆ ก็จับถึง
สำหรับตระกูล ZenPad ที่ออกมานั้น มีทั้งรุ่น ZenPad 8.0, ZenPad 7.0 และ ZenPad 7.0 C และครั้งนี้ทางทีมงานเอซุส ประเทศไทย ก็ได้นำเครื่อง ZenPad 7.0 มาให้ทางทีมงานแอพสมาร์ทได้สัมผัสและนำมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ชมกันด้วย
ZenPad 7.0 ในรุ่นที่นำมารีวิวนี้ เป็นบอดีสีขาว ซึ่งหากเป็นสาวๆ คงจะชอบเป็นแน่แท้ เพราะดูสะอาด หรู ดูมีราคาสุดๆ (ทั้งที่จริงเพียงแค่ 5,990 บาทก็เป็นเจ้าของได้แล้ว) ตัวเครื่องมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมคือ Audio Cover เคสที่มีลำโพงในตัว และ ASUS ZenClutch โคฟเวอร์หนังสุดงาม
มาดูกันที่ตัวเครื่อง ZenPad 7.0 มาพร้อมกับหน้าจอ 7 นิ้ว ความละเอียด 1280X800 พิกเซล หนาเพียง 8.7 มม. หนัก 272 กรัม (น้ำหนักนี้ผู้หญิงอย่างเราๆ พกพากันได้สบายๆ) ประมวลผลด้วย CPU ใช้ Intel Atom x3-C3230RK 1.2 GHz 64 bit ในระบบ Android 5.0.2 มีหน่วยความจำภายใน 16 GB และแรม 2GB กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล รองรับทั้ง Wifi และ SimCard
เมื่อได้สัมผัสตัวเครื่องครั้งแรก ต้องบอกเลยว่าดีไซน์ดี สวยงาน ดูแพงตามที่ได้กล่าวตามขั้นต้น ขนาดขอบก็บางลงไม่หนาเท่ารุ่นก่อนๆ ด้านหน้าไม่มีปุ่มกดแบบนูนๆ แต่อย่างไร ดูเรียบๆ ด้านบนมีกล้องหน้า และส่วนขอบมีพอร์ตสำหรับเสียบหูฟัง ส่วนด้านข้างนั้น เป็นปุ่มกดปรับ-ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์ ส่วนขอบล่างขอตัวเครื่องนั้น มีพอร์ตสำหรับเสียบสาย USB เพื่อทำการชาร์จแบตหรือโอนถ่ายไฟล์ และไมโครโฟนสนทนา
สำหรับด้านหลังต้องบอกเลยว่าดีไซน์มาได้โดนใจมากๆ กับฝาหลังพิมพ์ลายหนังให้ความสวยงาม จับได้มั่นคง พร้อมกันนี้ยังพิมพ์โลโก้ ASUS ได้ดูเด่นสง่างามมาก ส่วนบนซ้ายจะเป็นตัวกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล โดยเจ้าฝาหลังนี้สามารถทำการแกะออกมาได้ ซึ่งที่เห็นนั้นตัวแบตเตอรี่เป็นแบบฝัง ผู้ใช้ไม่สามารถแกะถอดเพื่อทำการเปลี่ยนได้เอง นอกจากนี้ก็มีช่องเสียบซิมการ์ดขนาด microSim และเมมโมรี่การ์ดแบบ microSD เช่นเดียวกัน และอีกจุดที่เพิ่มเข้ามาคือฐานเชื่อมต่อกับ ZenClutch
เมื่อลองเปิดเครื่อง จะเห็น Zen UI โฉมใหม่ที่ให้ความทันสมัยและชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยซีพียูที่แรงเอาเรื่อง ก็ทำให้การปัดเคลื่อนย้ายหน้าจอ เปิดปิดแอปต่างๆ สามารถสั่งการได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีกระตุกอยู่บ้างเล็กน้อยเวลาจะเปลี่ยนแอปไปมา
ส่วนเรื่องของกล้องนั้น แม้ว่าจะให้มาในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้เป็นที่ประทับใจนัก ด้วยความละเอียดที่ไม่มาก ภาพออกมาจึงไม่ค่อยคมชัดนัก ทั้งในส่วนของกล้องหน้าและกล้องหลัง(ซึ่งแน่นอนว่าสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตต่างๆ ที่ออกมาใหม่ก็ต่อสู้กันเรื่องกล้อง) แต่เอซุสก็ยังได้ใส่ฟีเจอร์ต่างๆ ไว้เยอะพอสมควร ทั้งเอฟเฟค การปรับแต่ง การตั้งค่ากล้อง
ภาพถ่ายตอนกลางคืนที่มีนอยซ์เยอะมาก ไม่คมชัด
ถ่ายในที่แสงน้อยไม่ค่อยเวิร์กสักเท่าไหร่
สำหรับการเล่นเกมแรงๆ อาจจะยังไม่ตอบโจทย์นัก เพราะแรมจริงๆ สามารถใช้ได้เพียง 1 GB เท่านั้น แต่สำหรับงานทั่วไป การดูหนัง ฟังเพลง ก็ยังสามารถใช้งานไหลลื่นได้ดีอยู่
เรื่องของแบตเตอรี่จุถึง 3450 mAh มาพร้อมโหมดประหยัดพลังงาน สามารถงานได้ต่อเนื่องแบบเต็มที่ได้ 6-7 ชั่วโมง แต่หากเล่นน้อยก็อยู่ได้หลายวันเลยทีเดียว
มาถึงในส่วนของอุปกรณ์เสริมที่ทางเอซุสแนะนำให้ใช้ควบคู่กับ ZenPad กันบ้าง เริ่มจาก ASUS ZenClutch โคฟเวอร์หนังสุดงามที่เป็นเคสในตัว ดูดีมีระดับสุดๆ หรือจะเรียกว่า Power Case ก็ได้ เพราะเจ้าเคสตัวนี้สามารถชาร์จแบตให้กับเครื่องโดยไม่ต้องต่อสาย หมายความว่าตัวเคสสามารถชาร์จแบตให้ตัวเองกลายเป็นแบตสำรองภายในตัวได้นั่นเอง บรรจุแบตไว้ 3450 mAh เท่ากับแท็บเลต ซึ่งหากใช้งานร่วมกันก็สามารถใช้แท็บเล็ตแบบต่อได้ถึง 15 ชั่วโมงได้เลยทีเดียว ตัวเคสมีให้เลือก 2 สีคือ สีขาวและสีดำ
สาวๆ สามารถถือเสมือนเป็นกระเป๋าถือเก๋ๆ ได้เลย
ส่วนทางด้าน Audio Cover มีหน้าตาคล้ายกับ ASUS ZenClutch แต่มีความหนามากกว่า ด้วยลำโพง 5.1 เคสสามารถพับได้ ให้เสียงที่ดี
ใครอยากจะได้รุ่นนี้ พบกันได้เลยที่งาน Thailand Mobile Expo ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ 1-4 ตุลาคมนี้